1.การลอยตัว -เพื่อทำให้เราสามารถลอยอยู่ในน้ำให้ได้นานที่สุด ลดการใช้แรง
2.การหายใจ - การหายใจทางปาก เพื่อป้องกันน้ำเข้าจมูก
3.การใช้แขนขาอย่างถูกวิธี -เพื่อช่วยพยุงการว่ายน้ำ และว่ายได้อย่างถูกวิธี
4 ท่าพื้นฐานในการว่ายน้ำ
1. ท่าฟรีสไตล์หรือท่าCrawl Stroke
2. ท่ากรรเชียง ซึ่งเป็นท่าที่หงายตัวว่าย
3. ท่าผีเสื้อ คือการว่ายโดยใช้แขนคู่
4. ท่ากบ คือการพุ่งแขนคู่ ถีบขาคู่
ประโยชน์ที่ได้รับจากการว่ายน้ำ
การว่ายน้ำช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และสามารถช่วยผ่อนคลายจิตใจ อีกทั้งยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบอีกด้วย
แหล่งสถาบัน
ทักษะเบื้องต้นในการฝึกว่ายน้ำ
การลงน้ำ
การลงน้ำเป็นขั้นตอนแรกก่อนอื่นต้องดูอุปกรณ์ที่ช่วยในการลอยตัวเช่นทุ่นว่าอยู่ในลักษณะที่ถูกต้องหรือไม่จากนั้นให้ก้าวลงน้ำโดยก้าวจากที่ที่ตื้นที่สุดไปสู่ที่ที่ลึกที่สุด เมื่อลงไปในน้ำแล้วให้ย่อเข่าลงเพื่อให้ไหล่อยู่ใต้น้ำการทำแบบนี้จะทำให้ร่างกายเกิดความคุ้นกับอุณหภูมิของน้ำ
การกระทุ่มเท้า
การลอยตัวโดยยกเท้าขึ้นจากพื้นสระโดยให้ไหล่อยู่ใต้น้ำมือข้างหนึ่งจับราวแบบหงายมือและอีกข้างกดกับผนัง เมื่อไหล่อยู่ใต้น้ำจะรู้สึกว่าขาเคลื่อนถอยหลังไปซึ่งหมายความว่าขากำลังลอยขึ้นสู่ผิวน้ำตามธรรมชาติ จากนั้นให้เตะขาหรือกระทุ่มเท้าขึ้นลงเบาๆ โดยเคลื่อนไหวจากต้นขาลงมาปลายเท้าและต้องพยายามเหยียดขาออกไปไม่เกร็งขา
การลอยตัว
วิธีง่ายสุดก็คือลอยในลักษณะตั้งตรง โดยใช้ทุ่นช่วยพยุงที่แขนควรทำในน้ำที่ลึกพอประมาณสามารถยืนถึงให้ลอยตัวด้วยการงอเข่าพยายามผ่อนแขนให้สบายๆและไม่เกร็ง
การเคลื่อนที่
อวัยวะที่ใช้ก็คือแขนขาวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการพุ้ย น้ำแบบพายเรือคือกดมือลงไปในน้ำทิศทางตรงข้ามกับที่ต้องการจะเคลื่อนที่ไป ส่วนขาวิธีที่ง่ายคือให้ทำเหมือนกับการปั่นจักรยาน
การฝึกคือฝึกเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและเคลื่อนที่ไปข้างหลังให้ได้
การกลับเข้าสู่ท่ายืน
การกลับเข้าสู่ถ้ายืนสำคัญมากเพราะหากคนอื่นชนเราขณะที่กำลังฝึกว่ายน้ำจะทำให้สามารถกลับมาสู่ท่ายืนได้อย่างปลอดภัย
การหายใจ
หายใจออกในขณะที่หน้าอยู่ในน้ำและหายใจเข้าเมื่อเงยหน้าขึ้นจากน้ำ
การฝึกว่ายน้ำท่า FREE Style
การใช้ขา
เตะน้ำให้ลึกลงไปและเตะถี่ๆซึ่งปลายเท้าจะสะบัดเล็กน้อยอย่าให้เท้าพ้นน้ำขึ้นมาควรเตะอยู่ในน้ำตลอดเวลาและขาไม่พับมาตรงเข่า
การใช้แขน
การพุ่งมือลงน้ำต้องทำด้วยความนิ่มนวลไม่กระชากแขนไม่แกว่งว่ายไปอย่างสบายสบาย ที่สำคัญคือเวลาพุ่งมือลงน้ำแขนต้องอยู่แนวเดียวกับใบหู
การเหยียดแขนขณะที่มือขวาพุ่งลงน้ำแขนต้องตามไปด้วยเพื่อช่วงแขนจะได้เหยียดตรงไปทางด้านหน้าได้สะดวก
การพุ้ยน้ำหลังจากที่มือซ้ายพ้นน้ำให้หมุนไหล่ขวาบิดลำแขนพร้อมข้อมือมาด้านหน้าเพื่อทำการพุ้ยน้ำ
การวาดมือเข้าหาลำตัวเมื่อพุ้ยน้ำจนลึกสุดแล้วให้วาดมือมาทางด้านข้างในแนวเดียวกับไหล่
การวาดมือตวัดขึ้นข้างบนเมื่อมือขวาวาดผ่านใต้ไหล่ไปแล้วแสดงว่ามือจะเริ่มตวัดขึ้นบนตอนนี้มือจะบิดออกไปด้านข้างสะโพกและยกสูงขึ้นด้านบน
การกลับเข้าสู่ท่าเริ่มต้น
การกลับเข้าสู่ท่าเริ่มต้นจะเริ่มเมื่อข้อศอกพุ้ยน้ำขึ้นมาและตามด้วยมือ โดยมือจะอยู่ในแนวเดียวกับต้นขาจำเป็นต้องดึงข้อศอกให้สูงพ้นน้ำเพราะมือจะได้ผลน้ำแล้วเคลื่อนไปยังจุดพุ่งใหม่ได้
วิธีใช้ขาและแขนร่วมกันคือปกติขาหกครั้งและดึงแขนสองครั้งคือนับขา 123 แล้วดึงแขนข้างหนึ่ง พอนับ 456 ก็ดึงแขนอีกข้างหนึ่ง
การกระทุ่มเท้า
การกระทุ่มเท้าช่วยรักษาสมดุลของการใช้ขาและช่วยให้ลำตัวตั้งตรงไม่แกว่งไปมา ลักษณะที่ดีควรเตะขึ้นเตะลงโดยพยายามให้ท่อนขาชิดกันจะได้ไม่เกิดอาการเกร็งที่ขา
แหล่งสื่อมวลชน
การว่ายน้ำท่า FREE Style
การเตะขา
ก่อนอื่นควรเริ่มที่ทักษะการเตะขา ปลายขาและเท้าจะต้องงุ้ม ขาเหยียดตรง เมื่อเตะขาต้องเตะลงไปใต้น้ำเป็นลักษณะแนวตรง ขาไม่เกร็ง
การเป่าลม
ต่อไปคือทักษะการเป่าลม หรือเรียกว่าการเป่าbubble คือเราจะทำการเป่าเอาลมเข้าท้องเพื่อเก็บเอาไว้และเมื่อเอาหน้าลงน้ำก็จะปล่อยลมออก
การพุ่งปลาเข็ม
การพุ่งปลาเข็มคือการตั้งท่าก่อนจะว่ายน้ำท่าFREE Style โดยลำตัวจะเหยียดตรงแต่ไม่เกร็งสบายสบายแขนทั้งสองข้างเหยียดตรงแนบชิดหลังใบหูมือประสานกันไว้ โดยการพุ่งปลาเข็มจะมี2แบบคือการพุ่งแบบเตะขา กับการพุ่งปลาเข็มแบบไม่เตะขา
การหมุนแขน
จะหมุนเป็นลักษณะแนวตรงเหยียดผ่านลำตัวกับสะโพกไปหมุนไปข้างหลังเป็นแนวตรง นิ้วชิดติดกันโดยการหมุนแขนมีสองแบบคือการหมุนแขนเดียวและการหมุนแขนคู่
โดยการหมุนแขนเดี่ยวเราจะขึ้นมาเป่าลมข้างบนเพื่อสูดอากาศในข้างที่เราถนัดและหมุนแขนข้างนั้นไปด้วย หลังจากนั้นก็ก้มลงไปปล่อยลมใต้น้ำ
แต่ในการหมุนแขนคู่นั้นเราจะหมุนแขนสองข้างโดยเราจะเป่าลมแค่ข้างที่เราถนัดเท่านั้นกล่าวคือเราจะต้องเป่าลมให้นานเพราะว่าเราจะขึ้นมาเป่าได้แค่ข้างเดียวเท่านั้น
เมื่อเรียนรู้ครบทุกกระบวนการแล้วเราก็สามารถนำแต่ละอย่างมาใช้ได้และสามารถทำให้ว่ายน้ำท่า FREE Style ได้อย่างถูกต้อง
แหล่งอินเทอร์เน็ต
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ในสังคมออนไลน์ก็มีการแชร์ข้อความ ภาพเเละโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพกันอย่างเเพร่หลาย สถานออกกำลังกายอย่างฟิตเนสก็มีมากขึ้นกว่าเดิม อาชีพเทรนเนอร์ บล็อกเกอร์ด้านสุขภาพก็เริ่มได้รับความนิยม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้คนได้หันมาให้ความใส่ใจกับสุขภาพ ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีเพราะสุขภาพร่างกายนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั้งภาครัฐเเละเอกชนได้ให้ความใส่ใจและจัดการรณรงค์ต่างๆมากมาย เเละสนับสนุนให้ประชากรใส่ใจสุขภาพ เพื่อสร้างสุขภาพพลานามัยที่ดีแก่ประชาชน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากสุขภาพกายแล้วสุขภาพจิตก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ หากสุขภาพจิตไม่ดีก็ยากที่จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงไปด้วยได้ เพราะทั้งสองสิ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกัน หากคุณมีความเครียด ความกดดันต่างๆ ก็ยากที่คุณจะรักษาสุขภาพที่แข็งแรงไว้ได้ และการที่เรามีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่เเข็งแรง ก็ยังส่งผลต่อรูปร่าง หน้าตาและความงาม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนเชื่อมโยงกัน ดังนั้นหากคุณเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพกันตั้งแต่วันนี้ ก็จะทำให้คุณมีสุขภาพที่เเข็งเเรงและดูดีขึ้นอย่างเเน่นอน
ว่ายน้ำ เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะได้รับความเพลิดเพลินแล้วนั้น ยังทำให้สุขภาพแข็งแรง ดังนั้นจึงมีผู้คนไม่น้อยที่ให้ความสนใจกับกีฬาว่ายน้ำ และมีผู้คนอีกไม่น้อยเช่นกันที่กลัวการว่ายน้ำ อันเนื่องมาจากกลัวจมน้ำและกลัวหายใจไม่ออก แต่เชื่อเถอะว่าการว่ายน้ำเป็นสิ่งที่หลายคนควรให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยส่งเสริมให้สุขภาพแข็งแรงแล้วนั้น ยังช่วยป้องกันในด้านอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอีกด้วย ในปัจจุบันมีอุบัติเหตุมากมายที่น่าสลดใจเกี่ยวข้องกับน้ำ และผู้คนมากมายต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากการจมน้ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นล้วนเกิดจากการว่ายน้ำไม่เป็นนั้นเอง ฉะนั้นเราทุกคนควรหันมาใส่ใจ และฝึกว่ายน้ำกันไว้ เพื่อป้องกันอันตรายของตัวเราเองจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ฉะนั้นสำหรับใครที่อยากว่ายน้ำได้แบบที่สามารถป้องกันตัวเราจากอุบัติเหตุก็สามารถฝึกตามขั้นตอนพื้นฐานต่างๆได้ดังตอนไปนี้
-ฝึกหายใจเข้าออกในน้ำหรือที่เราเรียกว่า"การปั๊มลม"
-ฝึกเหยียดตัวตรงตีเท้าในน้ำ
-ฝึกลอยตัวในน้ำด้วยโฟม
ประโยชน์ของการว่ายน้ำ
ประโยชน์การว่ายน้ำมีด้วยกันอยู่หลายด้าน คือ
ด้านร่างกาย
เป็นสิ่งแรกที่ผู้คนทั่วไปรับรู้โดยทั่วกันนั่นก็คือด้านสุขภาพร่างกายนั่นเอง การว่ายน้ำมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับและลดไขมันส่วนเกิน ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่จะหวังในด้านนี้กัน เพื่อควบคุมน้ำหนักแต่นอกจากจะช่วยลดไขมันแล้วนั้น ยังทำให้ระบบของหัวใจ ปอด และการไหลเวียนเลือดแข็งแรงขึ้นอีกด้วย และสำหรับใครที่อยากจะสูงขึ้นการว่ายน้ำยังมีส่วนช่วยได้เนื่องจากการว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ร่างกายต้องใช้อวัยวะทุกส่วน ดังนั้นจึงทำให้ร่างกายมีการพัฒนาและเติบโตขึ้น ทำให้มีรูปร่างที่ดูดี และยังสามารถชะลอความเเก่ช้าลง หลังจากว่ายน้ำเเล้วยังทำให้เรารู้สึกหลับสบายขึ้นอีกด้วย
ด้านสังคม
การว่ายน้ำทำให้เราได้คบค้าสมาคมกับผู้คนที่มาว่ายน้ำด้วยกัน ทำให้เราได้รู้จักผู้คนมากขึ้นและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคม นอกจากนี้ยังรู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และให้อภัยซึ่งกันและกัน เพราะในขณะที่ว่ายน้ำเราไม่ได้ว่ายน้ำคนเดียวเรายังว่ายน้ำกับผู้คนอื่นๆมากมาย ทำให้เรามีความรับผิดชอบต่อตนเองและส่วนรวมมากขึ้น และรู้จักให้เกียรติและเคารพกฎของสถานที่นั้นๆกล่าวคือการว่ายน้ำ ทำให้เรารู้จักปรับตัวและอยู่ร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น
ด้านจิตใจและอารมณ์
สำหรับใครที่กำลังมีความเครียดอยู่นั้น การว่ายน้ำถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการคลายเครียด เพราะว่าความเย็นของน้ำจะช่วยให้เราผ่อนคลายและทำให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน และเมื่อเราเกิดความเพลิดเพลินก็จะทำให้รู้สึกสดชื่นและร่าเริงจากการหลั่งของสารเอนโดฟินนั่นเอง
ดังนั้นการว่ายน้ำนับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีอย่างมากในการลดความเครียด
ด้านความปลอดภัย
แน่นอนว่าการว่ายน้ำสามารถทำให้เราป้องกันตัวเองจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดอย่างการจมน้ำได้ แล้วยังสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากเนื่องจากปัจจุบันได้มีอุบัติเหตุไม่คาดคิดมากมายที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ฉะนั้นการว่ายน้ำได้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial 4.0 International License.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น